2552/11/09

Balancing on the Machine


1. การทรงตัวเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยการผสมผสานระหว่างคนกับรถประการแรกคือ ห้ามยืนในตำแหน่งที่ขาแนบชิดกับ frame มากเกินไป มันจะทำให้ยากต่อการทรงตัวของคุณอย่างถูกต้อง ควรจะให้มีช่องว่างที่จะเคลื่อนไหวควบคุมรถระหว่างขาทั้งสองข้างของคุณได้สะดวก
2. หักหมุน handlebar ไปที่ตำแหน่งล๊อคเต็มที่ ซ้ายหรือขวาสุดก็ได้แล้วแต่คุณถนัด
3. เกี่ยวเบรกมือและเบรกเท้าเสมอ
4. เกียร์และครัตซ์อยู่ในตำแหน่งพร้อมทำงาน
5. พยายามรักษาความผ่อนคลาย ความตึงเครียดจะทำให้ยากและต้องใช้สติปัญญาและกำลังมากขึ้น
6. ใช้ bar pressure และ peg weighting รวมถึงการเคลื่อนไหวของร่างกายให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้เสียสมดุล
การเริ่มฝึกฝนให้เป็นเร็วขึ้นมีหลายวิธีแล้วแต่บุคคล
วิธีที่ 1 (ฝึกคนเดียว ดับเครื่อง)
1 ให้เอารถมอเตอร์ไซด์ไปจอดคู่ขนานกำแพงหรือผนัง และให้แฮนด์พิงกำแพงโดยให้รถตั้งตรงไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
2 ขึ้นไปยืนทรงตัวบนรถ (ขั้นนี้ง่ายมาก) โดยใช้เท้าทั้งสองเหยียบ peg หรือแป้นเท้า และเอามือจับแฮนด์พอหลวมๆ เอาไว้พร้อมที่จะขยับหรือถ่ายน้ำหนักของร่างกายเพื่อเอียงรถไปทางซ้ายหรือขวา
3 ลองถ่ายน้ำหนักและทรงตัวเพื่อให้ปลายแฮนด์ที่พิงไว้กับกำแพงข้างหนึ่งเป็นอิสระหรือห่างจากกำแพง
4 พยายามรักษาสมดุลยืนเองให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะพยายามกี่ครั้งก็ได้ (แต่คงไม่ใช่ครั้งเดียง ซึ่งอาจ 10 20 หรือ 30ครั้ง)
วิธีที่ 2 (มีเพื่อนช่วย ดับเครื่อง)
1 ให้คุณขึ้นไปยืนทรงตัวบนรถเลยโดยให้เพื่อนจับหรือประคองบังโคลนหรือ frame ข้างหลังเอาไว้แบบไม่ต้องล๊อคแน่นมาก
2 ปรับหรือหมุนแฮนด์ไปซ้ายสุดหรือขวาสุดตามที่คุณถนัด (ควรฝึกฝนทั้งสองข้าง) แล้วพยายามทรงตัวให้นิ่ง
3 ให้เพื่อนที่ช่วยประคองรถไว้ทางด้านหลังค่อยๆคลายมือแต่ยังช่วยประคองไว้ ในขณะนี้ให้คุณฝึกทรงตัวโดยขยับตัวหรือส่ายก้น เพื่อถ่ายน้ำหนักรักษาสมดุลของรถไปยังขาและเท้า และมือทั้งสองข้าง (โดยเน้นน้ำหนักไปที่ขาและเท้า ล้อหน้าจะเบาทำให้ขยับแฮนด์ได้ง่ายขึ้น) ลองดูนะครับ วิธีนี้จะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและเป็นเร็วที่สุดถ้าหากเพื่อนคุณมีเวลาพอ
4 ฝึกทบทวนด้วยวิธีที่ 1 หรือ 2 จนกว่าคุณจะเป็น
วิธีที่ 3 (ขับขี่จริง)
1. ให้คุณขับขี่ในสภาพปกติโดยขับขี่ให้ช้าด้วยเกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 และช้าลงเรื่อยๆ จนรถหยุด
2. ฝึกเรื่องของการทรงตัวให้ถ่ายน้ำหนักลงบนขาหลัง และขยับหรือหมุนแฮนด์เพื่อให้รถทรงตัวได้ตามความจำเป็น
3. ถ้าหากรถจะเสียหลักล้มไปทางใด ให้คุณย่อตัวหรือหย่อนก้นให้ต่ำลงและถ่ายน้ำหนักไปยังฝั่งตรงข้ามหรือ ใช้เท้าตรงข้ามกับทิศที่จะล้มยื่นออกไปนอกแป้นเหยียบ (ให้ระวังหน้าของผู้ที่มายืนสังเกตการณ์ใกล้ๆ ด้วยครับ ทางที่ดีควรห่างจากคนหรือสิ่งของประมาณ 1.5 หรือ 2 เมตรขึ้นไป)
4. ข้อสำคัญคือสมาธิและจิตใจที่แน่วแน่ว่าจะเอาให้ได้ครับ จะทำให้ระยะเวลาเป็นเร็วขึ้นและต้องฝึกบ่อยๆ และเสมอหรือตลอดเวลาที่ยืนขับขี่บนรถครับ